เรื่องย่อ
มอมเป็นสุนัขพันธุ์ทางที่เกิดขึ้นเพราะอุปัทวเหตุ มีนายและนายผู้หญิงเลี้ยงดูมันด้วยความรักความเอาใจใ่ส่ มอมเป็นสุนัขที่ฉลาด ซื่อสัตย์ และเชื่อฟังคำสั่งของนาย มอมไม่ได้รักนายเท่าชีวิตแต่นายนั้นคือชีวิตของมอม จนกระทั่งนายต้องรับหน้าที่ไปเป็นทหารในระหว่างสงครามโลก ซึ่งก่อนจะไปนายได้ฝากนายผู้หญิงกับหนูไว้กับมอม นายผู้หญิงซึ่งไม่มีรายได้อะไรเลยก็ไม่สามารเลี้ยงมันได้อย่างสุขสบายเหมือนแต่ก่อน มอมต้องไปคุ้ยขยะกินเหมือนหมาข้างถนนตัวอื่นๆ มันใช้เวลาส่วนมากในการนอนที่หัวกระไดบ้านเพื่อคอยนายตามที่นายเคยสั่งไว้
มอมคอยนายจนกระทั่งผ่านไป 2 ปี นายก็ยังไม่กลับมา แต่กลับมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น มอมได้ยินเสียงเครื่องยนต์ซึ่งจริงๆ แล้วนั่นคือระเบิดที่ฆ่าชีวิตนายผู้หญิงและหนูไปจากมอม ทำให้มอมคิดว่าคนทั้งโลกกลายเป็นศัตรู เพราะคนเหล่านี้ทำให้นายจากไป มอมโดนสะเก็ตระเบิดที่ขาหลัง เมื่อกำลังมันอ่อนลงทุกวัน หลังจากนั้นมอมก็โซซัดโซเซไปหลบเงานอนอยู่ที่ประตูหน้าบ้านใหญ่ริมถนนแห่งหนึ่ง จนกระทั่งมีเด็กผู้หญิงมาพบมอนและเก็บมันไปเลี้ยงอย่างดี และตั้งชื่อใหม่ให้มันว่า "ไอ้ดิ๊ก" แต่มอมก็ไม่เคยลืมชื่อจริงของมันที่นายตั้งให้ ถึงแม้ว่ามอมจะรักคุณแต๋ว มันก็รักเพราะมือที่ให้ข้าวมันกิน คุณแต๋วไม่ใช่ชีวิตของมอม มอมยังคงนั่งสังเกตดูคนที่เดินผ่านไปผ่านมา เผื่อว่าจะเจอนายของมัน
คืนวันหนึ่งในฤดูร้อนอีก 2 ปีต่อมา มอมได้พบชายผู้หนึ่งกำลังจะเข้ามาขโมยของที่บ้านคุณแต๋ว กลิ่นของชายผู้นั้นเป็นกลิ่นที่มอมรู้จักดี เป็นกลิ่นที่มันเฝ้าคอยมาเป็นแรมปี นั่นคือนายของมันนั่นเอง
ตัวละคร
มอม เป็นตัวละครที่ซื่อสัตย์ มีความจงรักภักดีต่อนาย ไม่ลืมตัว จากตอนที่มอมอยู่กับคุณแต๋วมานาน แต่มันก็ไม่เคยลืมนายและชื่อที่แท้จริงที่นายมันตั้งให้ คือ "ไอ้มอม" เป็นตัวละครที่มีพัฒนาการ และมีลักษณะนิสัยพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ เช่น ตอนที่มันไปคุ้ยหาอาหารกินในถังขยะ
นาย เป็นตัวละครที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะและสถานการณ์ที่บีบบังคับ เพื่อความอยู่รอด ดังตอนที่นายเข้าไปขโมยของในบ้านคุณแต๋ว
โครงเรื่อง
ในรื่องนี้ มีโครงเรื่องที่นำไปสู่ความขัดแย้งและการคลี่คลายของเรื่อง ดังที่ปรากฏในเรื่อง ดังนี้
- ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับสังคม คือ ตัวละครนายที่มีความขัดแย้งกับสภาพสังคมในสมัยนั้น คือมีการเกณฑ์ชายไทยไปทำหน้าที่รักษาบ้านเมืองในช่วงวิกฤติสงครามโลก ซึ่งทำให้เรื่องดำเนินไปถึงจุดวิกฤติต่างๆ เช่นจุดที่ทำให้ครอบครัวนายของมอมขาดเสาหลักของบ้าน
- ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับจิตใจ คือความขัดแย้งในจิตใจของตัวละครนาย เขาได้ต่อสู้กับอำนาจมืดในจิตใจของตัวเอง นั่นคือการคิดลักขโมยทั้งที่ใจจริงไม่อยากทำ ดังคำพูดจากเรื่องคือ "ข้าหมดหนทางจริงๆ มอมเอ๋ย แต่เอ็งอย่านึกว่าข้าเคยลักขโมย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก พอดีพบเอ็ง เอ็งก็ทำให้ข้าต้องอาย ทำไม่ลง"
แก่นเรื่อง
กล่าวถึงความจงรักภักดีของสุนัขตัวหนึ่งที่มีต่อเจ้าของ ซึ่งมันคิดว่าคือชีวิตของมอม ดังช่นในคำพูดที่ว่า "มอมไม่ได้รักนายเท่าชีวิต แต่นายคือชีวิตของมอม" และ "มอมมันเป็นหมาที่มีแต่หัวใจและหัวใจของมันก็มอบให้นาย"
ข้อคิดและคุณค่าที่ได้จากเรื่อง
1. ข้อคิดจากแก่นเรื่องด้านของความจงรักภักดีที่ไม่ได้มีเฉพาะกับมนุษย์ผู้เรียกตนเองว่าสัตว์ประเสริฐเท่านั้น
2. การรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพสังคม
3. การรู้จักเอาตัวรอด
4. การไม่ทำตัวเป็นวัวลืมตีน
มอง - มอม
ในหัวข้อนี้เราจะวิเคราะห์แง่มุมต่างๆ ซึ่งผู้แต่งอาจจะต้องการสะท้อนแง่คิดและมุมมองที่ตนมีต่อสภาพสังคมในสมัยนั้นรวมถึงมุมมองความรู้สึกของสุนัข มีการใช้ตัวละครมอมเป็นสื่อ หากมองให้ดีแล้ว ในเรื่องมอม แฝงสภาพสังคมและความเป็นอยู่ที่ทำให้ผู้อ่านได้เห็นอยู่บ้างว่าคนในสมัยนั้น มีการใช้ชีวิตอย่างไร เราจะได้เห็นดังต่อไปนี้
พฤติกรรมสุนัข แสดงใหุ้เห็นว่าผู้แต่งมีความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมในทุกช่วงชีวิตของสุนัขเป็นอย่างดี จนทำให้ผู้อ่านเหมือนกับเข้าไปมีประสบการณ์ร่วม กล่าวคือ เหมือนได้ไปเห็นพฤติกรรมด้วยตาตนเอง ดังจะบอกให้เข้าใจถึงสัญชาติญาณและวิถีชีวิตของสุนัข เช่นในตอนที่กล่าวว่า "ถ้าจะออกจากบ้านไปไหน จะต้องถ่ายปัสสาวะรายทางไว้ สำหรับดมกลิ่นของตนเองกลับบ้านได้ถูก ที่ที่จะถ่ายรดนั้นก็ต้องเป็นที่ที่สังเกตได้ง่าย สูงเพียงระดับจมูก ไม่ต้องก้มลงดมให้เสียเวลา เป็นต้นว่าเสาไฟฟ้าหรือต้นไม้ข้างทาง ออกจากบ้านเดินไปก็ต้องยกขาถ่ายรดเอาไว้เป็นสำคัญ แต่ถ้ามีหมาตัวอื่นมาถ่ายทับเสีย กลิ่นนั้นก็เพี้ยนไป อาจถึงกลับบ้านไม่ถูก หรืออย่างน้อยก็ต้องลำบากทุลักทุเล การถ่ายปัสสาวะรดที่ตัวอื่นทำไว้แล้ว จึงเป็นอนันตริยกรรมของสุนัข"
มุมมองที่สะท้อนสภาพสังคมครอบครัวสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง สังคมไทยในอดีต มีสภาพสังคมที่ผู้ชายเป็นผู้นำครอบครัว เป็นเสาหลักของบ้าน ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่เป็นภรรยา ทำหน้าที่แม่บ้านเลี้ยงดูลูก ไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว ซึ่งในสังคมปัจจุบัน บางครอบครัวก็ยังเห็นบทบาทของคนในครอบครัวเช่นนี้อยู่เหมือนกัน แต่อาจจะมีความแตกต่างอยู่บ้าง ตรงที่ในสมัยปัจจุบัน รายได้ของคนในครอบครัวไม่ได้มาจากผู้ชายเสมอไป ผู้หญิงก็สามารถหารายได้มาจุนเจือครอบครัวได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นสังคมที่เปิดรับมากขึ้น ผู้หญิงอาจถูกเรียกได้ว่า เป็นเวิร์คกิ้งวูเม่น (working woman) สามารถที่จะเลี้ยงดูตนเองพร้อมกับลูกได้ แม้จะไม่มีสามีคอยเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ในเรื่องมอม เราจะเห็นได้ว่าผู้หญิงสมัยนั้นต้องพึ่งพาผู้ชายและไม่สามารถจะช่วยเหลือตนเองได้เลยหากขาดสามีผู้เป็นเสาหลักไป ดังเช่นนายของมอมต้องไปออกรบในสงคราม ทำให้นายหญิงและลูกไม่มีรายได้ จนต้องขายเครื่องใช้ในบ้านกิน ทั้งยังต้องอดมื้อกินมื้อจนร่างกายผ่ายผอมและดูเหมือนว่าจะสิ้นไร้หนทางที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้ในอนาคต
มอมกับแง่คิดการเสียดสีสังคม
เราจะเห็นได้จากแง่คิดในด้านความซื่อสัตย์ของมอมที่ผู้เขียนอาจต้องการเสียดสีสังคมสมัยนั้นก็เป็นได้ โดยเปรียบเทียบความจงรักภักดีของมอมที่มีต่อนายกับคนบางกลุ่มในยุคสมัยดังกล่าวที่ว่า แม้ว่ามอมจะได้ไปอยู่กับเจ้านายใหม่ที่มีฐานะร่ำรวย สามารถเลี้ยงดูมอมได้อย่างสุขสบาย แต่มอมก็ยังเลือกที่จะไปอยู่กับนายเก่าของมันที่อาจจะไม่สามารถเลี้ยงดูมันได้ดีเท่ากับเจ้านายใหม่ก็ตาม แต่ด้วยความจงรักภักดีที่มีต่อเจ้านายเก่า ซึ่งมอมเห็นว่าได้เลี้ยงดูมันตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่อีกทั้งมีตอนหนึ่งในเรื่องกล่าวไว้ว่่า
"มอมมันจำกลิ่นไว้ได้ กำหนดสัญญาไว้ว่าคนคนนั้นเป็นนายของมัน แล้วมันก็รัก" เป็นความซื่อของสัตว์ที่ถูกมนุษย์เรียกว่าเดรัจฉาน หากแต่มีความกตัญญูต่อเจ้านายและรากเหง้าของมัน ในทางตรงกันข้าม มนุษย์บางกลุ่มในสภาพสังคมที่เต็มไปด้วยสงครามขณะนั้น ได้ลืมรากเหง้าของตนเองและให้ความนิยมชมชอบเทิดทูนในความเป็นต่างชาติเพียงจะได้รับผลประโยชน์ เพื่อทำให้ตนเองสุขสบาย ละเลยความจงรักภักดีและศีลธรรมที่ควรจะมีในฐานะเป็นมนุษย์
มอมจึงเป็นเรื่องสั้นอีกเรื่องหนึ่ง ที่มีคุณค่าในด้านแนวคิด คนทุกยุคทุกสมัยควรจะได้อ่าน
Casinos near Casino Center | MapyRO
ตอบลบFind Casinos Near Casino Center in Hanover, West 통영 출장안마 Virginia near Hollywood in West Virginia and other 김해 출장안마 Hollywood Casino Near 부산광역 출장안마 Me, 대전광역 출장마사지 Maryland, 아산 출장샵 Maryland